ศรัทธาคือจุดเริ่มต้น

กรกฎาคม 27, 2015

โดย มาเรีย ฟอนเทน

“ความศรัทธาของเรานี่แหละ คือชัยชนะที่พิชิตโลก” “ศรัทธาคือ​ความ​แน่‍ใจ​ใน​สิ่ง​ที่​เรา​หวัง​ไว้ เป็น​ความ​มั่น‍ใจ​ว่าสิ่ง​ที่​ยัง​ไม่​ได้​เห็น​นั้น​มี​จริง” – 1 ยอห์น 5:4

ศรัทธาคือรหัส คือรากฐานของพลัง การเจิม และชัยชนะ ศรัทธาคือจุดเริ่มต้นของสิ่งใดก็ตามที่เรารู้สึกว่าพระองค์ได้มอบหมายให้เราทำ เราต้องมีศรัทธาที่จะเชื่อฟังพระคำของพระเจ้า มีศรัทธาที่จะก้าวออกไปลองทำอะไรที่แปลกใหม่ มีศรัทธาให้พระองค์ใช้เราได้ในทางใหม่ๆ มีศรัทธาว่าเราสามารถเอื้ออำนวยให้พระกิตติคุณ “ถูกประกาศไปทั่วโลก เพื่อเป็นพยานกับทุกชนชาติ”[1]

ศรัทธาเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง นี่จะช่วยให้เราก้าวไปสู่ลู่ทางที่เปิดไว้ โดยการคว้าโอกาสทอง และติดตามพระเจ้าไปที่ไหนก็ตามที่พระองค์ชี้นำ ศรัทธาจะช่วยเราให้ตอบรับต่อพระเยซู ตอบรับต่อการกล้าเสี่ยง ตอบรับต่อการลองวิธีการใหม่ๆ ในการเป็นพยาน ตอบรับต่อการใช้เวลาหล่อเลี้ยงผู้ที่พระองค์ส่งมาตามทาง ตอบรับต่อการไม่ยอมหมดหวังในดวงวิญญาณผู้ขัดสนบางคน ตอบรับต่อความประสงค์ของพระองค์สำหรับเราแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม

การที่จะได้ผลลัพธ์ยิ่งใหญ่ เราต้องมีศรัทธา! ศรัทธาคือสิ่งที่จะขับเคลื่อนเรา ช่วยเราให้ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ และลงมือดำเนินการตามที่มีความเชื่อและวิสัยทัศน์ โดยที่มุมานะเมื่อสิ่งต่างๆ ยากลำบาก ศรัทธาจะส่งเราทะยานข้ามอุปสรรคไป

บางครั้งดูเหมือนว่าศรัทธาค่อนข้างจะเร้นลับ แต่ที่จริงแล้วไม่สลับซับซ้อน เราไม่ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อแยกแยะหรือเข้าใจความศรัทธา เราเพียงแต่ต้องไว้วางใจในสิ่งที่เรามีเหตุผลดีๆ ที่จะเชื่อว่าเป็นจริง คือพระเยซู ผู้เป็นบ่อเกิดและบันดาลให้ศรัทธาของเราสัมฤทธิ์ผล  คือผู้ที่ให้เกียรติต่อการที่เราไว้วางใจพระองค์ และการที่พระองค์นำทางชีวิตเรา เมื่อใดที่เรามีความไว้วางใจเช่นนี้ เราก็เริ่มก้าวไปสู่สิ่งที่พระองค์นำพาให้เราทำได้ ด้วยความมั่นใจอย่างเต็มที่ว่า พระองค์จะให้เกียรติในการที่เราไว้วางใจพระองค์ และให้พระองค์มีส่วนรับรองตลอดเส้นทาง

เราดำเนินชีวิตด้วยศรัทธา และเราดำเนินไปด้วยศรัทธา ศรัทธาคือ “ใบแสดงกรรมสิทธิ์” ทว่าสะท้อนให้เห็นเป็นการกระทำด้วย เป็นการ “ทำ” ตามพระคำ เพราะถ้าศรัทธาปราศจากการกระทำ ก็ไร้ชีวิต[2] เราไม่ต้องรู้สึกว่าเรามีศรัทธา หรือคิดว่าเราต้องมีศรัทธาใหญ่หลวง เพียงเริ่มทำสิ่งที่พระองค์นำพาให้ทำ เราก็จะตระหนักว่าเรามีขุมทรัพย์ล้ำค่านี้จริงๆ ยิ่งเรานำมาใช้ประโยชน์ และหล่อเลี้ยงศรัทธามากเท่าไร ศรัทธาก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นเท่านั้น

(พระเยซู:) เจ้าเคยดูการสัมภาษณ์ข่าวกีฬาไหม เขาสัมภาษณ์นักกีฬาหลังจากที่ชนะ หรือหลังเกมการแข่งขัน เขาถามผู้ชนะว่าอะไรที่ช่วยให้เป็นต่อ อะไรช่วยให้เป็นฝ่ายได้เปรียบ เขาจึงเอาชนะคู่แข่งได้ บ่อยครั้งนักกีฬาตอบว่าเขามีความเชื่อมั่นในตนเอง เขาเชื่อมั่นในทีมของเขา และเขาเชื่อว่าเขาเอาชนะได้

ศรัทธาคือการมีความเชื่อมั่นในเรา ศรัทธารู้ว่าเจ้าไว้วางใจเราอย่างสิ้นเชิงได้ ศรัทธารู้ว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หรือไม่ว่าเจ้าจะเผชิญหน้ากับอะไร เราจะช่วยเจ้าให้ผ่านพ้นมาได้ เราจะบันดาลให้ลงเอยด้วยดีสำหรับเจ้า ไม่ว่าสภาพการณ์จะเป็นเช่นไร

ศรัทธาไม่ใช่สิ่งที่เจ้า “มี” ตามธรรมชาติ ศรัทธาเพิ่มพูนและก่อร่างสร้างขึ้น ยิ่งศรัทธาของเจ้าถูกทดสอบ ยิ่งเจ้าหันมาหาเราและพระคำ ศรัทธาของเจ้าก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นเท่านั้น

เราเสริมสร้างศรัทธาของเจ้าได้ เมื่อเจ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดศรัทธา เช่น ความท้าทายในช่วงเวลาที่ยุ่งยากใจ ทว่าส่งผลเป็นศรัทธายิ่งใหญ่ขึ้น ถ้าเจ้ายืนหยัดด้วยศรัทธา และเฝ้าดูเราส่งผลให้เป็นที่ประจักษ์ชัดต่อเจ้า

เคล็ดลับการเสริมสร้างศรัทธา และลงมือดำเนินการ

ขอให้เต็มใจย่างก้าวออกไป โดยเฉพาะถ้าช่วยขยายขอบเขตความความศรัทธาของคุณ

*

สะท้อนให้เห็นความศรัทธา โดยมีความคิดริเริ่ม นึกคิดนอกกรอบ และก้าวออกมานอกแบบพิมพ์ หรือพื้นที่สุขสบาย

*

ขยายขอบเขตความนึกคิดของคุณ ความศรัทธาถูกจำกัดอยู่ที่ความนึกคิดของคุณเสมอก็แทบจะว่าได้ รวมถึงสิ่งที่คุณเต็มใจยอมรับว่าเป็นไปได้ ผลักดันอุปสรรคกีดขวางไปให้พ้น สำรวจท้องทะเลที่ยังไม่เคยไปมาก่อน

*

อย่าให้ความล้มเหลวในอดีต หรือความกลัวว่าจะล้มเหลวในอนาคต เป็นตัวหน่วงเหนี่ยวคุณไว้

*

กำหนดแผนเพื่อดำเนินการตามที่มีศรัทธา ถึงแม้คุณรู้ว่าแผนการจะขยับขยายขอบเขตของคุณออกไป หรือคุณไม่รู้สึกว่าพร้อมอย่างเต็มที่ การพิจารณาความคิดหลากหลายเป็นก้าวแรกที่ดี แต่ก็ถึงเวลาแล้วที่คุณต้องดูแนวคิดที่สมเหตุสมผล และเลือกแนวทางดำเนินการ เมื่อมีแนวทางดำเนินการแล้ว ขอให้กำหนดก้าวแรก แนวคิดดีๆ มากมายไปไม่ถึงไหน เพราะไม่ได้ย่างก้าวแรก

*

อย่าหยุดแค่ก้าวแรกที่ดี กำหนดแผนการที่คุณดำเนินงานจนบรรลุเป้าหมาย

*

เป็นไปได้ว่าไม่ใช่องค์ประกอบทุกอย่างในแผนการของคุณ จะได้ผลตามที่วางแผนไว้ เมื่อเป็นเช่นนั้น ก็วางแผนใหม่ แล้วมุ่งหน้าต่อไป

*

หลักเบื้องต้นของความศรัทธา และการดำเนินการทุกอย่าง คือ ลงมือทำ! ขอให้เริ่มต้น เมื่อคุณรู้ความประสงค์ของพระองค์แล้ว ก็ลงมือทำเลย

*

ขอให้เต็มใจทำงานหนัก ซึ่งควบคู่มากับการดำเนินการตามที่มีศรัทธา ศรัทธาคือความเชื่อที่เน้นว่าแผนการใช้ได้ และบรรลุผลได้ แต่การกล้าเสี่ยงใดๆ ที่ควรค่า ต้องอาศัยการลงมือลงแรง ทำงานต่อไปอย่างไม่ลดละระยะหนึ่ง และความพากเพียร จนสำเร็จผล บางครั้งก็อาศัยเพียงแต่การเริ่มงาน

*

ทุ่มเทเวลาเพื่อพิสูจน์ความศรัทธาของคุณ เมื่อคุณรู้ว่าอะไรคือความประสงค์ของพระเจ้า อย่าเลิกราไป พอเห็นสัญญาณความยุ่งยากขั้นแรก อย่าด่วนล้มเลิกเร็วเกินไป ศรัทธารับความท้าทาย ทั้งที่คาดหมายและไม่ได้คาดหมายให้เกิดขึ้น แล้วลงมือจัดการ ศรัทธาจะไม่เพียงแต่ปรารถนาให้เป็นไปเอง ทว่าวางแผนเพื่อหาทางแก้ แล้วนำมาปฏิบัติให้เกิดผล

*

นึกคิดในแง่บวก แต่มองดูตามความเป็นจริงด้วย การดำเนินการตามที่มีศรัทธา ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่มองตามความเป็นจริง แต่หมายความว่าขณะที่คุณวางแผนก้าวไปสู่อนาคต และเล็งไปสู่นิมิตในสวรรค์ คุณก็เข้าใจด้วยว่าหมายถึงอะไรในทางปฏิบัติ และย่างก้าวที่คุณดำเนินการไปได้ทุกวัน ด้วยความช่วยเหลือของพระเจ้า

*

ศรัทธาต้องอาศัยความตั้งใจทำงาน ศรัทธาไม่เกียจคร้าน คอยท่าให้สายฟ้าแลบ ก่อนที่จะลงมือดำเนินการ “สายฟ้าแลบ”อาจกำลังมา แต่ศรัทธาไม่เฉื่อยชาในระหว่างที่รอ ศรัทธาจะทำงานหนัก ทั้งไว้วางใจพระองค์ และทำสิ่งที่ทำได้อย่างแข็งขัน

*

อย่ารู้สึกแย่ ถ้าหากต้องเปลี่ยนแผนการเล็กน้อย ขณะที่ทำไป ศรัทธาไม่กลัวที่จะปรับแผน เพราะเชื่อมั่นว่าพระเจ้าเป็นผู้ควบคุม การเปลี่ยนแปลงทำงานเคียงข้างความศรัทธา

*

อย่าจมปลักกับความจำเจ ว่าศรัทธานำพาคุณไปที่ไหนได้บ้าง แต่คาดหมายให้ศรัทธาพาคุณไปแสนไกล แล้วก็ง่วนกับการพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นเช่นนั้น

*

คาดหมายว่าจะเกิดอุปสรรค แต่อย่าให้อุปสรรคหน่วงเหนี่ยวคุณไว้ ขอให้หัดรับมือกับอุปสรรค เอาชนะ และฟันฝ่าไปให้ได้ บ่อยครั้งอุปสรรคชี้ให้เห็นองค์ประกอบที่ไม่ทันนึกถึงอย่างเต็มที่ในแผนการขั้นต้น และยังผลให้แผนการประสบความสำเร็จมากขึ้นในบั้นปลาย ศรัทธาจะทำให้คุณมีมุมมองที่ถูกต้องเกี่ยวกับอุปสรรค และช่วยคุณให้รับผลประโยชน์จากอุปสรรคนั้น โดยถือว่าเป็นย่างก้าวไปสู่ความสำเร็จ

*

ฉลองชัยชนะไปตามทาง ถึงแม้จะเป็นชัยชนะเล็กๆ แม้แต่ฉลองปัญหาไม่คาดหมายที่คุณต้องแก้ไข ซึ่งยังผลเป็นชัยชนะ

*

ขอคำอธิษฐานจากผู้อื่น ถ้าคุณรู้สึกว่าศรัทธาของคุณถูกโจมตี

*

สัตย์ซื่อในการใช้เวลาอ่านพระคำของพระเจ้า ซึ่งช่วยเสริมสร้างศรัทธาของคุณ และเพิ่มพูนวิสัยทัศน์

*

รับฟังเรื่องราวและสักขีพยานที่เสริมสร้างศรัทธาจากผู้อื่น

*

อยู่ใกล้ผู้คนที่มีศรัทธา

*

บันทึกคำอธิษฐานที่ได้รับคำตอบ นี่จะช่วยกระตุ้นศรัทธาอย่างมหาศาล ทั้งมีส่วนช่วยอย่างยอดเยี่ยมในช่วงเวลาการสรรเสริญและนมัสการ

*

กล้ามเนื้อความศรัทธาจะไม่เติบโตหรือแข็งแกร่งขึ้น จากการอยู่ในพื้นที่สุขสบาย เมื่อย่างก้าวหนึ่งได้แล้ว ก็ย่างไปอีกก้าวหนึ่ง เช่นเดียวกับนักกีฬาที่ฝึกด้วยลูกตุ้มน้ำหนักที่หนักขึ้น เมื่อเขายกน้ำหนักขั้นหนึ่งได้แล้ว ศรัทธาของคุณจะเพิ่มพูนและแข็งแกร่งขึ้น ด้วยการฝึกฝนศรัทธาให้มากขึ้น

(พระเยซู:) ศรัทธาเป็นเลิศที่สุด เมื่อผ่านการบีบคั้น และยังคงยิ้มสู้ นั่นคือสัญญาณบ่งบอกศรัทธาที่คงทนยั่งยืน ขอให้ทำส่วนของคุณเพื่อเสริมสร้างศรัทธา และหล่อเลี้ยงศรัทธา ด้วยการใช้เวลากับเราและพระคำ

ศรัทธามีการทำงานเป็นองค์ประกอบด้วย ศรัทธาคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงความคิดสวยหรู ให้เป็นการกระทำที่เปลี่ยนโลก ไม่มีอะไรเฉื่อยชาเกี่ยวกับการมีศรัทธา คุณต้องเต็มใจลุกขึ้นมาเพื่อลงมือทำงานหนัก

ผลงานสำหรับเราคือผลงานของพระวิญญาณ แต่เป็นการทำงานทางวัตถุมากพอๆ กัน ศรัทธาจะช่วยให้เจ้าดำเนินงานตามแผนการไปสู่ความเป็นจริง ศรัทธาจะไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ถ้าปราศจากการกระทำ นั่นรวมกันเป็นชุด

ศรัทธาจะเขย่าโลกของเจ้า เพราะจะไม่ใช่แค่ความหวังสำหรับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ทว่าจะลงมือดำเนินการตามที่มีศรัทธา ศรัทธาจะเป็นสิ่งที่หวังไว้ และเป็นความเชื่อมั่น ถึงแม้ว่ายังมองไม่เห็น[3]

จัดพิมพ์ครั้งแรก เดือนสิงหาคม ค.ศ. 2008 ปรับเปลี่ยนและจัดพิมพ์ใหม่ เดือนกรกฎาคม ค.ศ.2015


[1] มัทธิว 24:14

[2] ยากอบ 2:26

[3] ฮีบรู 11:1

Copyright © 2024 The Family International